ชื่อ: วัดหลวง
15 ม.ค. 2562
รายละเอียด:
ความน่าสนใจของวัดหลวงแห่งนี้ คือเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระแก้วมรกต สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสวด ประดิษฐานอยู่ในวิหารกลางวัด พระเจ้ามรกต หรือพระเจ้าแก้วมรกต ไม่มีหลักฐานปรากฏ แน่ชัดว่าได้มาจากที่ไหน มีแต่เพียงคำบอกเล่าสืบต่อกันมา จากบรรพบุรุษ ผู้เฒ่าผู้แก่ของท้องถิ่น ว่าเดิมทีชาวบ้าน ในบ้านหลวง เมืองสวด ถูกเกณฑ์ ไปเป็นหารเพื่อสู้รบกับข้าศึกที่จังหวัดเชียงตุง การสู้รบในครั้งนั้นอาวุธที่ใช้มีเพียงมีด หอก ดาบ และความสามารถทางด้านไสยศาสตร์ คาถาอาคมเครื่องรางของขัง และปฏิภาณไหวพริบ ไหวพริบเท่านั้น แต่ด้วยจำนวนทหารที่น้อยกว่า ไม่อาจต้านทานกำลังของข้าศึก จึงได้รบพลางและถอยไป พลางเพื่อรอกำลังทหารส่วนอื่นมาช่วย
เมื่อถอยมาได้สักระยะหนึ่ง ข้าศึกก็ได้เข้าโจมตีอย่างประชั้นชิด จึงได้ถอยร่มมาและได้อาศัยจอมปลวกที่สูงใหญ่เป็นที่กำบัง ข้าศึกพยายามปีนจอมปลวกขึ้นมาก็ถูกชาวบ้านหลวงฆ่าตาย แม้จะใช้ปืนใหญ่ยิงเข้ามาที่จอมปลวกสักเท่าไหร่ ลูกปืนก็ไม่สามารทำอันตราย แก่จอมปลวกและชาวบ้านได้ หลังจากนั้นเมื่อฆ่าศึกเสียทั้งคน และกำลังกายไปเป็นจำนวนมาก จึงได้ล้าถอยกลับไปเมื่อข้าศึกถอยกลับไป ชาวบ้านก็พากันวิเคราะห์พิจารณาจอมปลวกที่ใช้กำบังอยู่นั้นจะต้องมีของดีอยู่เป็นแน่
จึงทำให้ชาวบ้านแคล้วคลาดจากอันตรายมาได้ จึงได้ชวนผู้เฒ่าผู้แก่ช่วยกันขุดจอมปลวกดู ปรากฏว่าพบ พระแก้วมรกตองค์นี้ และพระพุทธรูปที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอีกหนึ่งองค์ เมื่อเสร็จสงคราม ก็ได้อัญเชิญพระทั้งสององค์นี้ กลับมาด้วย เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการบูชา เป็นของคู่บ้านคูเมือง เป็น สิริมงคลบันดาลให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข และประดิษฐานไว้ ณ วัดบ้านหลวง แต่นั้นเป็นต้นมา
ณ ปัจจุบัน พระแก้วมรกต ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร กลางวัดหลวง ด้านในวิหารจะมีพระแก้วมรกตจำลองขนาดใหญ่กว่าของจริงให้กราบนมัสการ ส่วนองค์จริงนั้นถูกเก็บไว้ในวิหารเช่นเดียวกัน แต่อยู่ด้านในซึ่งเป็นห้องกระจกนิรภัย มีการล็อคอย่างแน่นหนา พระแก้วมรกตองค์จริงจะมีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือนิดหน่อย สามารถมองเห็นจากด้านนอกได้ มีสีออกเขียวอมเหลือง มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยอดีต ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระแก้มรกต ที่เลื่องลือแก่ผู้เคารพนับถือ จึงมีผู้ไม่หวังดี พยายามลักขโมยอยู่หายครั้งใช้ทั้งเล่ห์และอุบายต่างๆ นานา เพื่อหลอกพระเณรและชาวบ้าน เคยมีเจ้านายฝ่ายเหนือกลุ่มหนึ่งใช้เล่ห์เพทุบายให้ย้ายองค์พระแก้ว ไปประดิษฐานไว้วัดใหญ่ในจังหวัดน่าน
แต่ชาวบ้านหลวงก็พร้อมใจกันปฏิเสธว่า ไม่เคยเห็นองค์พระแก้วมรกตมาก่อน มีหลายครั้งที่เจ้านายฝ่ายเหนืออ้างมาตรวจราชการในอำเภอบ้านหลวง โดยไม่แจ้งล่วงหน้า และรุดไปดูที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตทันที แต่ทั้งพระเณร และชาวบ้าน ก็ร่วมใจกันปฏิเสธทุกครั้ง มีครั้งหนึ่งได้ออกอุบายไปเผาบ้านของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกับวัด เพื่อให้ชาวบ้านและพระเณรแตกตื่นไปช่วยดับไฟที่บ้าน และแอบเข้าไปขโมยองค์พระ แต่ด้วยอภินิหารขององค์พระแก้วมรกต จึงทำให้หลุดพ้นจากน้ำมือของผู้ไม่หวังดี
แต่ถึงกระนั้นก็เป็นที่น่าเสียดายที่พระพุทธรูป ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับพระแก้วมรกตถูกลักขโมยไป จึงยังคงเหลือพระแก้วมรกตองค์นี้ประดิษฐานอยู่ เป็นที่สักการบูชาและอำนวยความร่มเย็นเป็นสุขให้กับชาวบ้านหลวงมาจนถึงบัดนี้ซึ่งด้านในของวิหารจะมีภาพเขียนประติมากรรมผาผนังบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาขององค์พระแก้วมรกตให้ได้ชมอีกด้วย
ในช่วงเทศการสงกานต์ของทุกปี ชาวบ้านหลวง จะอันเชิญองค์พระแก้มรกต ออกจากห้องนิรภัย เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้ทำพิธีสงฆ์น้ำพระและกราบไหว้ขอพร หากต้องการชมพระแก้วมรกตอย่างใกล้ชิด แนะนำให้เดินทางไปในช่วงเทศการสงกานต์ ของทุกปี
รูปภาพ/ไฟล์เอกสาร